วันศุกร์ที่ 22 กันยายน พ.ศ. 2560
S.W.O.T.
Strength จุดเเข็ง
- วัตถุดิบหาได้ง่าย พบได้ทุกฤดูกาล
- มีรสชาติอร่อย
- สามารถเก็บรักษาได้นาน
- ราคาย่อมเยาว์
- สามารถรับประทานได้ทุกเพศทุกวัย
Weakness จุดอ่อน
- ใช้เวลาในการผลิตที่นาน
- จำนวนการผลิตต่อวันน้อยกว่าความต้องการ
- ขายได้กำไรน้อย
Opportunity โอกาส
- กล้วยเป็นวัตถุดิบที่หาได้ทุกฤดูกาล
- พบได้ทุกที่ในประเทศไทย
- เพราะราคาที่ถูก ทำให้มีการกระจายสินค้าได้ง่าย
Threat อุปสรรค
- มีคู่แข่งจำนวนมาก
- มีเงินทุนไม่พอ เนื่องจากอุปกรณ์ในการผลิตมีราคาค่อนข้างแพง
- วัตถุดิบหาได้ง่าย พบได้ทุกฤดูกาล
- มีรสชาติอร่อย
- สามารถเก็บรักษาได้นาน
- ราคาย่อมเยาว์
- สามารถรับประทานได้ทุกเพศทุกวัย
Weakness จุดอ่อน
- ใช้เวลาในการผลิตที่นาน
- จำนวนการผลิตต่อวันน้อยกว่าความต้องการ
- ขายได้กำไรน้อย
Opportunity โอกาส
- กล้วยเป็นวัตถุดิบที่หาได้ทุกฤดูกาล
- พบได้ทุกที่ในประเทศไทย
- เพราะราคาที่ถูก ทำให้มีการกระจายสินค้าได้ง่าย
Threat อุปสรรค
- มีคู่แข่งจำนวนมาก
- มีเงินทุนไม่พอ เนื่องจากอุปกรณ์ในการผลิตมีราคาค่อนข้างแพง
สมาชิก
สมาชิก
นายศิรชัช แสงงาม ม.6/3 เลขที่ 1
นายภัทรพล เจียมภิรมย์สุข ม.6/3 เลขที่ 4
นายอภิสิทธิ์ ล้นเหลือ ม.6/3 เลขที่ 8
นายภูวิชญ์ ใจสะอาด ม.6/3 เลขที่ 11
นายธนธร จึงรัตนโกศล ม.6/3 เลขที่ 13
นายพันชั่ง ขวัญเมือง ม.6/3 เลขที่ 17
ปัญหาเศรฐกิจในปัจจุบัน
ปัญหาของเศรษฐกิจในปัจจุบัน
ในปัจจุบันนี้ประเทศเรามีสภาพเศรษฐกิจที่ไม่คล่องตัวราคาของก็มีราคาที่สูงขึ้นส่วนเราก็มีรายได้ที่เท่าเดิมทำให้กำลังการซื้อของคนเราในปัจจุบันลดลงซึ่งเราก็ยังไม่สามารถรู้ได้ว่าเศรษฐกิจในอนาคตจะเป็นอย่างไรในอนาคตพวกเราจึงควรเตรียมตัวรับมือกับปัญหานี้ข้าวของของกินของใช้จะมีราคาที่สูงขึ้นมันไม่ดีเเน่สำหรับคนสมัยนี้
น้ำตาล
น้ำตาล
น้ำตาลพบได้ทั่วไปในเนื้อเยื่อของพืช แต่มีเพียงอ้อย และชูการ์บีตเท่านั้นที่พบน้ำตาลในปริมาณความเข้มข้นเพียงพอที่จะสกัดออกมาได้อย่างมีประสิทธิภาพ อ้อยหมายรวมถึงหญ้ายักษ์หลายสายพันธุ์ในสกุล Saccharum ที่ปลูกกันในเขตร้อนอย่างเอเชียใต้ และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ตั้งแต่สมัยโบราณ การขยายการผลิตเกิดขึ้นในคริสศตวรรษที่ 18 พร้อมกับการสร้างไร่น้ำตาลในเวสต์อินดีส และอเมริกา เป็นครั้งแรกที่คนทั่วไปได้ใช้น้ำตาลเป็นสิ่งที่ให้ความหวานแทนน้ำผึ้ง ชูการ์บีต โตเป็นพืชมีรากในที่ที่มีอากาศเย็นกว่าและเป็นแหล่งที่มาส่วนใหญ่ของน้ำตาลในศตวรรษที่ 19 หลังจากมีวิธีสกัดน้ำตาลเกิดขึ้นหลายวิธี การผลิตและการค้าน้ำตาลเปลี่ยนแปลงไปตามวิถีชีวิตของมนุษย์ มีอิทธิพลต่อการก่อตั้งอาณานิคม การมีอยู่ของทาส การเปลี่ยนผ่านไปสู่สัญญาแรงงาน การย้ายถิ่นฐาน สงครามระหว่างชาติที่ครอบครองน้ำตาลในศตวรรษที่ 19 การรวมชนชาติและโครงสร้างทางการเมืองของโลกใหม่
โลกผลิตน้ำตาลประมาณ 168 ล้านตันในปี พ.ศ. 2554 โดยเฉลี่ยคนบริโภคน้ำตาล 24 กิโลกรัมต่อปี (33.1 กก. ในประเทศอุตสาหกรรม) เทียบเท่ากับอาหารปริมาณมากกว่า 260 แคลอรีต่อวัน
ที่มา https://th.wikipedia.org
กะทิ
กะทิ

กะทิ (อังกฤษ: Coconut milk) เป็นส่วนประกอบในการทำอาหาร มีลักษณะเป็นน้ำสีขาวข้นคล้ายนม ได้มาจากการคั้นน้ำจากเนื้อมะพร้าวแก่ สีและรสชาติที่เข้มข้นของกะทิมาจากน้ำมันมะพร้าวและน้ำตาลมะพร้าวที่อยู่ในเนื้อมะพร้าว โดยมีรสชาติมันและหวาน
การทำกะทิิ
กะทิได้มาจากการนำเนื้อมะพร้าวที่ขูดแล้ว มาใส่น้ำอุ่นเล็กน้อยให้พอชุ่ม เคล้าให้ทั่ว และคั้นส่วนผสมผ่านกระชอนหรือผ้าขาวบาง น้ำกะทิที่ได้ในครั้งแรกนี้เรียกว่าหัวกะทิ น้ำกะทิที่ได้จากการคั้นครั้งที่สองหรือสามเรียกว่าหางกะทิ หัวกะทิจะเข้มข้นกว่าหาง และเป็นส่วนผสมหลักในการทำอาหารอร่อย
กะทิได้มาจากการนำเนื้อมะพร้าวที่ขูดแล้ว มาใส่น้ำอุ่นเล็กน้อยให้พอชุ่ม เคล้าให้ทั่ว และคั้นส่วนผสมผ่านกระชอนหรือผ้าขาวบาง น้ำกะทิที่ได้ในครั้งแรกนี้เรียกว่าหัวกะทิ น้ำกะทิที่ได้จากการคั้นครั้งที่สองหรือสามเรียกว่าหางกะทิ หัวกะทิจะเข้มข้นกว่าหาง และเป็นส่วนผสมหลักในการทำอาหารอร่อย
การนำไปใช้
ใช้ได้มากมายหลายแบบ เช่น นำไปผัดกับพริกแกง ต้มพอเหนียวผสมเกลือทำหน้าขนม(บางที่ใช้แป้งข้าวโพดเพื่อให้เหนียวเร็ว)
กะทิสำเร็จรูป
ในปัจจุบันมีการแปรรูปผลิตภัณฑ์กะทิออกวางจำหน่ายแบบสำเร็จรูป ทั้งในรูปกะทิผง และผลิตภัณฑ์ยูเอชที เพื่ออำนวยความสะดวกในการใช้งาน
ที่มาเเละความสำคัญ
ที่มาเเละความสำคัญ
ในปัจจุบันนี้ประเทศเราได้มีการนำผลไม้มาเเปรรูปด้วยวิธีการที่หลากหลายและนำมาขายให้เเก่พวกเราในราคาที่สูงทาวกลุ่มของเราจึงได้คิดหาเเนวทางที่จะลดต้นทุนการผลิตและเพิ่มมูลค่าให้กับผลไม้ชนิดต่างๆสินค้าเหล่านั้นเเละขายในราคาที่ย่อมเยาว์
สิ่งที่เราได้นำมาทดลองเป็นตัวอย่างคือกล้วยโดยนำมาเเปรรูปให้ออกมาในรูปกล้วยกวนเพราะว่ากล้วยสามารถพบได้ทั่วไปเเต่ก็ไม่สามารถทำกำไรได้มากเท่าที่ควรกลุ่มเราจึงเล็งเห็นว่าเราควรนำผลไม้ชนิดนี้มาสร้างสรรค์ให้เกิดสิ่งที่สามารถเพิ่มมูลค่าให้กับมันได้ซึ่งนั่นก็ออกมาในรูปเเบบผลิตภัณฑ์ของชายฉกรรจ์กล้วยกวนของเรา
สิ่งที่เราได้นำมาทดลองเป็นตัวอย่างคือกล้วยโดยนำมาเเปรรูปให้ออกมาในรูปกล้วยกวนเพราะว่ากล้วยสามารถพบได้ทั่วไปเเต่ก็ไม่สามารถทำกำไรได้มากเท่าที่ควรกลุ่มเราจึงเล็งเห็นว่าเราควรนำผลไม้ชนิดนี้มาสร้างสรรค์ให้เกิดสิ่งที่สามารถเพิ่มมูลค่าให้กับมันได้ซึ่งนั่นก็ออกมาในรูปเเบบผลิตภัณฑ์ของชายฉกรรจ์กล้วยกวนของเรา
วันพฤหัสบดีที่ 21 กันยายน พ.ศ. 2560
การเเปรรูปอาหารด้วยวิธีการกวน
การกวน
1. กะทะใส่กะทิ 2 ถ้วย เคี่ยวไฟแรงให้เป็นขี้โล้ แตกน้ำมัน ตักใส่ภาชนะพักไว้
2. หม้อใส่กะทิ 2 ถ้วย (ที่เหลือ) ใส่น้ำตาลทราย ตั้งไฟให้น้ำตาลละลาย กรองด้วยผ้าขาวบางใส่ในกะทะทอง ใส่กล้วย ตั้งไฟกลาง ใช้พายไม้คนอย่าให้ติดก้นกะทะ อย่าให้ไหม้ หรี่เป็นไฟอ่อน (ถ้าไฟแรงจะไหม้และไม่เหนียว) ค่อยๆ กวนจนส่วนผสมเหนียวตัวขึ้น จึงค่อยๆ ตักขี้โล้น้ำมันมะพร้าวใส่ทีละทัพพี คนให้เข้ากัน ค่อยๆ ใส่ขี้โล้จนหมด และกวนจนกล้วยเริ่มแห้งเหนียวปั้นได้ ปิดไฟ พักให้เย็นตัว พอจับได้ แล้วคลึงกล้วยให้เป็นแท่งยาวๆ ตัดเป็นท่อนๆ ห่อด้วยกระดาษแก้ว หรือใช้พิมพ์กดเป็นก้อนๆ
วันศุกร์ที่ 15 กันยายน พ.ศ. 2560
กล้วยน้ำว้า
กล้วยน้ำว้า
ชื่ออื่นๆ : กล้วยใต้ กล้วยอ่อง กล้วยตานีอ่อง กล้วยมะลิอ่อง กล้วยส้ม
ต้นกำเนิด : เอเชียใต้และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ชื่อสามัญ : Banana,Cultivated banana
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Musa ABB CV. Kluai “Namwa”
ชื่อวงศ์ : Musaceae
ชื่อภาษาอังกฤษ : Cultivated banana
กล้วยน้ำว้า เป็นกล้วยพันธุ์หนึ่ง พัฒนามาจากลูกผสมระหว่างกล้วยป่ากับกล้วยตานี บริโภคกันอย่างแพร่หลาย ปลูกง่าย รสชาติดี สำหรับกล้วยน้ำว้าแบ่งออกเป็น 3 ชนิด ตามสีของเนื้อ คือ น้ำว้าแดง น้ำว้าขาว และน้ำว้าเหลือง คนไทยรับประทานกล้วยน้ำว้าทั้งผลสด ต้ม ปิ้ง และนำมาประกอบอาหาร นอกจากนี้ยังมีกล้วยน้ำว้าดำ ซึ่งเปลือกมีสีครั่งปนดำ แต่เนื้อมีสีขาว รสชาติอร่อยคล้ายกล้วยน้ำว้าขาว สำหรับกล้วยตีบเหมาะที่จะรับประทานผลสด เพราะเมื่อนำไปย่าง หรือต้มจะมีรสฝาด
ต้นกำเนิด : เอเชียใต้และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ชื่อสามัญ : Banana,Cultivated banana
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Musa ABB CV. Kluai “Namwa”
ชื่อวงศ์ : Musaceae
ชื่อภาษาอังกฤษ : Cultivated banana
กล้วยน้ำว้า เป็นกล้วยพันธุ์หนึ่ง พัฒนามาจากลูกผสมระหว่างกล้วยป่ากับกล้วยตานี บริโภคกันอย่างแพร่หลาย ปลูกง่าย รสชาติดี สำหรับกล้วยน้ำว้าแบ่งออกเป็น 3 ชนิด ตามสีของเนื้อ คือ น้ำว้าแดง น้ำว้าขาว และน้ำว้าเหลือง คนไทยรับประทานกล้วยน้ำว้าทั้งผลสด ต้ม ปิ้ง และนำมาประกอบอาหาร นอกจากนี้ยังมีกล้วยน้ำว้าดำ ซึ่งเปลือกมีสีครั่งปนดำ แต่เนื้อมีสีขาว รสชาติอร่อยคล้ายกล้วยน้ำว้าขาว สำหรับกล้วยตีบเหมาะที่จะรับประทานผลสด เพราะเมื่อนำไปย่าง หรือต้มจะมีรสฝาด
กล้วยน้ำว้าสามารถแปรรูปได้หลากหลาย อย่างกล้วยน้ำว้าสุกสามารถใช้ทำเป็นขนม ของหวานต่างๆ อาทิ กล้วยเชื่อม กล้วยบวชชี มีลักษณะสีเหลืองทั้งเปลือก และเนื้อ มีรสหวาน เหนียวนุ่ม นำมารับประทานเป็นผลไม้ และทำขนมหวาน แปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ เช่น กล้วยตาก หรือ ข้าวต้มมัด เป็นต้น
ที่มา https://th.wikipedia.org
สมัครสมาชิก:
ความคิดเห็น (Atom)










